วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ชุมชนเข้มแข็งทางเลือกใหม่ของการพัฒนา

          จากการวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศที่เริ่มขึ้นในปลายปี 2539 ซึ่งเป็นปีแรกของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 ได้ก่อให้เกิดปัญหาด้านเศรษฐกิจและสังคมต่าง ๆส่งผลกระทบต่อประชาชนชั้นและทุกภาคส่วนของสังคมประเด็นเรื่อง ชุมชนเข้มแข็ง จึงได้รับการหยิบยกขึ้นมากล่าวถึงเป็นอันมากในฐานะที่เป็น ทางเลือก ที่สำคัญของการพัฒนา เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นได้เพียงลำพังดังนั้นหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนจึงต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาร่วมกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งจำเป็นต้องให้ความสำคัญต่อกระบวนการพัฒนาที่เน้นคนเป็นศูนย์กลางตามหลักปรัชญาของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8 โดยการเพิ่มศักยภาพของคนและชุมชนให้เข้มแข็ง มีความพร้อมในการเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน ความเข้มแข็งของชุมชนจึงเป็นฐานสำคัญในการลดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงการสร้างกระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนในอนาคต ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาที่สำคัญประการหนึ่งต่อเนื่องมาถึงแผนพัฒนาฯฉบับที่ 9

ความหมายของชุมชนเข้มแข็ง
                เพื่อให้การพัฒนาประเทศเป็นไปอย่างยั่งยืนจึงต้องเริ่มจากการใช้จุดแข็งในสังคมและทุนทางสังคมที่มีอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชุมชนซึ่งเป็นทุนทางสังคมที่สำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในการแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง ในแผนพัฒนาฯฉบับที่ 8 ได้มีการให้แนวคิดและความหมายของชุมชน และความเข้มแข็งของชุมชนเพื่อเป็นแนวทางและการนำไปสู่การปฏิบัติตามยุทธศาสตร์และแนวทางการพัฒนาไว้ดังนี้
               ชุมชน หมายถึงกลุ่มคนที่มีวิถีชีวิเกี่ยวพันกัน และมีการติดต่อสื่อสารเกี่ยวข้องกันอย่างเป็นปกติต่อเนื่อง
อันเนื่องมาจากการอยู่ในพื้นที่ร่วมกันหรือมีอาชีพร่วมกันหรือการประกอบกิจการซึ่งมีวัตถุประสงค์ร่วมกันหรือการมีวัฒนธรรมความเชื่อ หรือความสนใจร่วมกัน (นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม)โดยความเป็นชุมชนอาจหมายถึงการที่คนจำนวนหนึ่งเท่าใดก็ได้มีวัตถุประสงค์ร่วมกันมีการติดต่อสื่อสารหรือรวมกลุ่มกัน มีความเอื้ออาทรต่อกัน มีการเรียนรู้ร่วมกัน ในการกระทำมีการจัดการ เพื่อให้เกิดความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ร่วมกัน(ศ.นพ.ประเวศ วะสี)

              จากความหมายข้างต้นจึงอาจกล่าวได้ว่าชุมชนมีความหมายมากกว่าการที่คนแต่ละคนมาอยู่ร่วมกัน แต่ได้สร้างความสัมพันธ์กันโดยมีหลักการเงื่อนไข กติกา ซึ่งเราเรียกโดยรวมว่าระเบียบบรรทัดฐานของการอยู่ร่วมกัน ชุมชนจึงมีลักษณะเป็นองค์กรทางสังคมที่สามารถตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวันของสมาชิกและสามารถช่วยให้สมาชิกสามารถจัดการกับปัญหาต่าง ๆ ที่มีอยู่ร่วมกันได้
              ความเข้มแข็งของชุมชน จึงหมายถึงการที่ประชาชนในชุมชนต่าง ๆ ของเมืองหรือชนบทรวมตัวกันเป็น องค์กรชุมชนโดยมีการเรียนรู้ การจัดการและการแก้ไขปัญหาร่วมกันของชุมชนแล้วถึงได้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือการพัฒนาทั้งทางด้านเศรษฐกิจสังคมวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมภายในชุมชนตลอดจนมีผลกระทบสู่ภายนอกชุมชนที่ดีขึ้นตามลำดับโดยจะเรียกชุมชนนี้ว่า กลุ่ม ชมรม สหกรณ์ บริษัท องค์กรชาวบ้าน เครือข่ายหรืออื่นๆ ที่มีความหมายแสดงถึงการร่วมมือช่วยเหลือกันเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน และด้วยความเอื้ออาทรต่อชุมชนอื่นๆในสังคมด้วย
             ทั้งนี้องค์กรชุมชน หมายถึง กลุ่มหรือชมรมหรือสหกรณ์ หรือในชื่ออื่นใด โดยจะมีการจดทะเบียนตามกฎหมายหรือไม่ก็ตามอันเป็นองค์กรที่เกิดจากการรวมตัวด้วยความสมัครใจของประชาชนจำนวนหนึ่งที่มีวัตถุประสงค์และอุดมคติร่วมกันมีมิตรภาพและความเอื้ออาทรต่อกัน มีการเรียนรู้กันอย่างต่อเนื่องในการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาเศรษฐกิจจิตใจ สังคม วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม มีผู้นำตาธรรมชาติเกิดขึ้นโดยผ่านกระบวนการทำงานร่วมกันการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนอาศัยอยู่บนพื้นฐานของกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนโดยในแต่ละชุมชนจะมีการพัฒนาไปสู่ความเข้มแข็งของชุมชนในมิติต่างๆ เช่นมิติทางด้านเศรษฐกิจมิติทางด้านทรัพยากรธรรมชาติ มิติทางด้านสังคมและมิติทางด้านวัฒนธรรม ซึ่งในการสร้างความเข้มแข็งของชุมชนนั้น อาจพัฒนาความเข้มแข็งได้เพียงบางมิติเท่านั้นเนื่องจากเงื่อนไขและกระบวนการที่นำไปสู่ความเข้มแข็งในแต่ละมิติของแต่ละชุมชนมีความแตกต่างกัน

องค์ประกอบของชุมชนเข้มแข็ง
                จากการดำเนินงานเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน
คณะอนุกรรมเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตภายใต้คณะกรรมการนโยบายสังคมแห่งชาติ
ได้กำหนดกรอบองค์ประกอบของชุมชนเข้มแข็งไว้ว่าจะต้องประกอบด้วย บุคคลหลากหลายที่รวมตัวกันเป็นองค์กรชุมชนอย่างเป็นทางการหรือไม่ก็ตามมีเป้าหมายร่วมกันและยึดโยงเกาะเกี่ยวกันด้วยประโยชน์สาธารณะและของสมาชิก มีจิตสำนักของการพึ่งตนเองรักษาเอื้ออาทรต่อกัน และมีความรักท้องถิ่น รักชุมชน มีอิสระในการร่วมคิด
ร่วมตัดสินใจ ร่วมทำและร่วมรับผิดชอบ มีการระดมใช้ทรัพยากรในชุมชนอย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพมีการเรียนรู้เชื่อมโยงกัน เป็นเครือข่ายและติดต่อสื่อสารกันหลายรูปแบบ มีการจัดทำกิจกรรมที่เป็นสาธารณะของชุมชนอย่างต่อเนื่องมีการจัดการบริหารกลุ่มที่หลากหลายและเครือข่ายที่ดี มีการเสริมสร้างผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่หลากหลายของชุมชนสืบทอดกันตลอดไปลักษณะของชุมชนเข้มแข็ง

วันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

108 วิธีโจรกรรมรถที่คุณต้องรู้

               ในสถานการณ์บ้านเมืองไม่ค่อยจะสู้ดีนัก บวกกับราคาน้ำมันที่ขึ้นลงยิ่งกว่าหุ้น ทำให้ใครที่คิดจะถอยรถป้ายแดงมาสักคันหนึ่ง คงต้องคิดให้รอบคอบมากกว่าเดิมเป็นสิบเท่าร้อยเท่า แล้ว ถ้าใครมั่นใจว่าการออกรถรถคันใหม่ไม่ใช่ปัญหา คงต้องระมัดระวังกันต่อเรื่องการโจรกรรมที่เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน ยิ่งเป็นยี่ห้อเป็นสีรถที่ตรงกับ  'ใบสั่ง' ด้วยล่ะก็ต่อให้ล็อก 10 ขึ้นตอน หรือใช้ระบบไฮเทคขนาดไหนก็ไม่มีทางรอดพ้นเงื้อมมือของพวกนักโจรกรรมรถยนต์ไปได้ มีสารพัดวิธีที่พวกหัวขโมยเหล่านี้สรรหามาล่อหลอกให้เจ้าของรถทั้งหลายได้เจ็บใจ ดังนั้นเราจึงต้องรู้ทันก่อนที่จะเสียรู้คนพวกนี้...ข้อมูลบางส่วนที่นำเสนอนั้นมาจากศูนย์ป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปร.ตร.)  ที่สำคัญเมื่อ 'รถหาย' จึงแม้ว่าจะตกใจแทบบ้าคุณก็ควรมีสติ   ให้รีบแจ้งรายละเอียด แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุทราบโดยเร็ว หรือโทรหมายเลขพิเศษ '1192' ของ(ศปร.ตร.) ตลอด24ชั่วโมง เพื่อความรวดเร็วในการติดตามสกัดจับคนร้าย และเพื่อความรวดเร็วในการกระจายข่าวสาร, ข้อมูลของรถที่ถูกโจรกรรม ไปยังหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง คือ ตำรวจทางหลวง, ตำรวจตระเวนชายแดน, ตำรวจภูธรภาค 1-9, กองบัญชาการตำรวจนครบาล, สถานีตำรวจภูธรตามแนวชายแดน, กองกำลังบูรพา, กองกำลังป้องกันชายแดน จันทบุรีและตราด
จอดรถต้องระวังการจอดรถไม่ว่าจะจอดในที่ ส่วนบุคคล ที่สาธารณะ แม้จอดทิ้งไว้ ระยะสั้นหรือ นานเพียงใด เพื่อไปทำธุระ หรือทำงาน ก็ตาม ไม่ควร จอดไว้ห่างไกล ควรมีคนเฝ้า ดูแลหรือยาม รปภ. ก่อนทิ้งรถ ควรไปตรวจสอบ การล็อคกุญแจประตู และใช้ อุปกรณ์ กันขโมย ให้ครบถ้วน อย่าทิ้งทรัพย์สิน สิ่งของมีค่า ไว้ในรถล่อตาคนร้าย
                บางครั้งรถไม่หายแต่ของหาย ข้อควรระวังในการจอดที่สำคัญก็คืออย่าจอดรถทิ้งไว้ค้างคืนบนถนน ไม่ว่าจะมีเครื่องป้องกันการโจรกรรมรถชนิดใดก็ตาม และอย่าทิ้งกุญแจรถไว้ที่รถ เมื่อจอดรถลงไปทำธุระไม่ว่ากรณีใดก็ตาม
                จอดรถในบ้าน....ใช่ว่ารถจะไม่หาย บางคนคิดว่าจอดรถในบ้านนั้นปลอดภัยที่สุดเพราะอยู่ในรั้วบ้านของเราเอง แต่น่านล่ะอันตรายเพราะคุณไมได้นอนเฝ้ารถตลอดเวลา แล้วเวลากลางคืนก็เป็นฤกษ์งามยามดีในการออกโจรกรรมรถตามบ้าน เพราะฉะนั้นการจอดรถในบ้านก็ต้องมีวิธีในการรักษาความปลอดภัยแบบง่ายๆ ก็คือจอดรถในบ้านต้องเอาท้ายรถออกนอกบ้าน ล็อครถและใช้อุปกรณ์กันขโมย หรือติดตั้งโคมไฟให้ส่องสว่างให้มองเห็นทั้งในและนอกรั้วบ้านหากจำเป็นต้องจอดรถนอกบ้าน ควรจอดชิดขอบทางหน้าบ้าน ให้มองเห็นได้ ลงจากรถและก่อนขึ้นไปนอนก็ต้องดูว่าล็อคกุญแจและอุปกรณ์กันขโมยเรียบร้อยแล้วแน่นอน
                หากมีความจำเป็นต้องจอดรถยนต์ไว้บนถนนหน้าบ้าน ควรมียามรักษาความปลอดภัยเฝ้าดูแลรถตลอดเวลาโดยประสานความร่วมมือกับเพื่อนบ้านใกล้เคียงที่ใช้รถ ละจอดรถไว้ในลักษณะเดียวกัน เพื่อช่วยเหลือกันในเรื่องค่าจ้างของยามรักษาความปลอดภัย
                จอดรถในห้าง...สารพัดอันตราย หลายคนอาจจะเข้าใจว่าจอดรถในห้างสรรพสินค้านั้นแสนจะสบายมีคนคอยดูแลตลอดเดินช็อปปิ้งกันเพลิดเพลิน แต่คุณคิดผิดเพราะด้วยบรรยากาศในลานจอดรถที่ทั้งมืดและเงียบทำให้อันตรายเป็นอย่างยิ่ง จริงอยู่ว่าทุกห้างนั้นมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแล แต่คุณต้องจำไว้ว่ารถนั้นมีเป็นพันๆคันเข้าออกในแต่ละวันเจ้าหน้าที่ไม่มีทางดูแลได้ทั่วถึง ซึ่งเป็นช่องทางให้คนร้ายเข้ามาทำการขโมยรถเราได้อย่างง่ายดาย
                วิธีแก้ไขหรือป้องกันนั้นไม่ยากเพียงแต่คุณต้องทำให้เป็นนิสัยก็คือก่อนออกรถหรือเมื่อมาถึงรถอย่ามัวแต่กังวลว่าจะต้องจัดของใส่รถหรือแต่งตัวแต่งหน้า
                โดยเฉพาะคุณผู้หญิงทั้งหลาย แต่คุณควรสังเกตว่ามีอะไรผิดปกติกับของคุณหรือไม่ทั้งด้านหน้ารถและหลังรถถ้าพบว่ามีอะไรที่ผิดแปลกไปก็ให้เรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ใกล้ที่สุดมาช่วยดู อย่าดูเพียงลำพังเพราะคนร้ายก็กำลังหาช่วงเวลาที่คุณเผลออาจจะเข้ามาทำร้ายได้
                รถใหม่ รถเก่าก็ต้องเอาใจใส่เท่ากัน  หากคุณมีรถใหม่ควรติดตั้งอุปกรณ์กันขโมยเพิ่มเติม เช่น เปลี่ยนกุญแจใหม่ ติดตั้งชุดล็อคเกียร์ ล็อคครัช ล็อคพวงมาลัย และสัญญาณกันขโมย คนร้ายชอบขโมยรถใหม่ๆ เนื่องจากขายต่อได้ง่ายมีราคาสูงโดยเฉพาะบรรดารถยอดนิยมต่างๆ เมื่อเจ้าของรถได้รถมาใหม่มักยังไม่ติดตั้งอุปกรณ์กันขโมยเมื่อจอดไว้ในที่ไม่ปลอดภัยคนร้ายฉวยโอกาส โจรกรรมรถไปได้โดยง่ายๆ
                หรือเมื่อคุณจะตกลงซื้อรถเก่าจากเจ้าของหรือจากผู้ขายตามเต็นท์ขายรถต้องขอหมายเลขเครื่องหมายเลขตัวถังและสำเนาทะเบียนรถ มาตรวจสอบกับทะเบียนรถในท้องถิ่นที่รถนั้นจดทะเบียนไว้เสียก่อนเพราะอาจเป็นรถที่ไม่ถูกต้องหรือขโมยมาสวมทะเบียน เมื่อซื้อรถมาแล้วควรต้องเปลี่ยนกุญแจและติดตั้งอุปกรณ์กันขโมยเช่นเดียวกับรถใหม่พึงระมัดระวัง ระลึกอยู่เสมอว่าคนร้ายจ้องรอโอกาสขโมยรถของคุณอยู่
                ระวัง การใช้อุปกรณ์กันขโมย เมื่อติดตั้งอุปกรณ์กันขโมยแล้วการใช้อุปกรณ์ต้องเก็บเป็นความลับเฉพาะผู้ที่ไว้ใจได้เพราะอุปกรณ์ บางอย่างใช้รหัสเฉพาะหรือสัญญาณรีโมทการไปจอดรถในที่ต่างๆจึงควรระวังคนร้ายอาจคอยสังเกตวิธีการใช้อุปกรณ์กันขโมยของท่านและติดตามไปหาโอกาสโจรกรรมรถของคุณในภายหลัง
                รถคุณถูกติดตามจะทำอย่างไร กรณีสังเกตรู้ว่ามีผู้ขับรถติดตามรถท่านให้สันนิษฐานว่าเป็นคนร้ายไว้ก่อนเพราะอาจตามไปฉวยโอกาสขโมยรถเมื่อคุณจอดรถทิ้งไว้ในที่ไม่ปลอดภัยหรืออาจประทุษร้ายต่อชีวิตร่างกายและทรัพย์สินของคุณ ดังนั้นเมื่อรู้ว่าถูกติดตามจึงควรป้องกันโดยพยายามขับรถเข้าไปในเขตชุมชน ขอความช่วยเหลือและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใกล้ที่สุดโดยด่วน
                จดจำตำหนิรูปพรรณ คุณควรจดจำข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับรถของคุณไว้ให้มากที่สุดโดยเฉพาะตำหนิรูปพรรณพิเศษอื่นๆโดยถ่ายเอกสารทะเบียนรถเก็บไว้รวมทั้งถ่ายรูปรถของคุณให้ปรากฏรอยตำหนิพิเศษ เก็บรักษาไว้เป็นหลักฐานกรณีรถหายจะได้นำมาแจ้งให้ตำรวจตรวจสอบสกัดจับได้อย่างรวดเร็วทันการณ์หากรถของคุณยังไม่มีตำหนิ ควรทำขึ้นไว้ในจุดที่ผู้อื่นไม่สามารถสังเกตเห็นและจดจำไว้ให้แม่นยำ
                รถจักรยานยนต์ต้องล็อคล้อล่ามโซ่ เนื่องจากมีสถิติรถจักรยานยนต์หายมากที่สุดเพราะคนร้ายขโมยไปได้ง่าย หรือยกขึ้นรถอื่นได้สะดวก การจอดรถจักรยานยนต์ นอกจากจะล็อคกุญแจคอกุญแจล้อแล้วควรล่ามโซ่ไว้ให้แข็งแรงด้วยและอย่าจอดทิ้งไว้ในที่เปลี่ยวหรือที่ลับตา
                ระวังการนำรถไปซ่อม-รับบริการ แก็งค์คนร้ายอาจจะเป็นช่างซ่อมรถหรือผู้ให้บริการตามอู่ซ่อมรถ หรือสถานบริการบำรุงรักษารถ มีความชำนาญระบบกลไก ของรถ อาจลักลอบทำกุญแจผี หรือทำลายระบบกันขโมย แล้วติดตามไปโจรกรรมรถของคุณในภายหลัง จึงควรระมัดระวัง ควรอยู่ดูแลการซ่อมหรือการบริการอื่นๆ อย่างใกล้ชิด หากจำเป็นต้องทิ้งรถไว้ให้ซ่อม หรือบำรุงรักษา จะต้องเป็น ผู้คุ้นเคยหรือ ไว้ใจได้เท่านั้น
                ทั้งหมดเป็นไอเดียของพวกโจรกรรมรถมืออาชีพที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ แถมยังทำกันเป็นขบวนการยากที่จะจับกุมและสืบสาวหาคนบงการ เมื่อเครื่องมือป้องกันรถออกแบบมาล้ำหน้าแค่ไหนก็ไม่เกินกว่าที่พวกนี้จะหาทางแก้
                เพราะฉะนั้นเจ้าของรถจึงต้องระวังตัวเองและรถยนต์ของท่านให้ดี เพราะพวกโจรเหล่านี้จ้องจะขโมยรถของคุณตลอด 24 ชม.



จังหวัดที่มีการรับแจ้งคดีโจรกรรมรถจักรยานยนต์มากที่สุด












 





             บทสรุป

               จากเนื้อหาของบทความดังกล่าวข้างต้นกล่าวได้ว่า ในปี พ.. 2552 จังหวัดที่มีการรับแจ้งคดีโจรกรรมจักรยานยนต์มากที่สุด ในแถบมหานครมากเป็นอันดับที่หนึ่ง มีจำนวน 6,506 คัน ซึ่งมากกว่าอันดับที่สองและสามถึง 4-5 เท่าตัว ส่วนจังหวัดรองลงมาคือชลบุรี มีจำนวน 1,663 คัน อันดับที่สาม เชียงใหม่ มีจำนวน 1,290 คัน ซึ่ งอัตราการสูญหายของรถจักรยานยนตร์ในแต่ละปี ลดหย่อนตามสัดส่วน แต่จังหวัดที่มีการรับแจ้งคดีโจรกรรมรถจักรยานยนต์มากที่สุดในแต่ละปีก็คือ กรุงเทพมหานคร

ข้อเสนอแนะ
                1.ควรส่งเสริมและสนันสนุนให้คนไทยรู้เท่าทันถึงวิธีการโจรกรรมรถจักรยานยนต์ในปัจจุบัน เพื่อ ป้องกันการถูกโจรกรรมในระยะยาว
                2. สนับสนุนบุคลากรทางตำรวจให้ออกตระเวนรักษาความปลอดภัยให้แก่บ้านเรือนประชาชนในเวลากลางคืน
                3. เปิดศูนย์รับแจ้งเบาะแสคนร้ายที่โจรกรรมรถ เพื่อป้องกันการถูกโจรกรรม


เอกสารอ้างอิง
                http://www.nso.go.th/   สำนักงานสถิติแห่งชาติ




นางสาวบุณฑริกา อำมาตย์มนตรี
รหัสนิสิต 52010119026

การเกิดประชากรไทย

          สถานการณ์ประชากรที่กำลังได้รับความสนใจในสังคมโลกปัจจุบันคงจะหนีไม่พ้นเรื่องโครงสร้างประชากรที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องและสังคมไทยในปัจจุบันมีอัตราการเกิดของประชากรต่ำแนวโน้มในอนาคตประเทศไทยจะเปลี่ยนเป็นสังคมผู้สูงอายุ จังหวัดที่มีอัตราการเกิดของประชากรมากที่สุด3อันดับคือ กรุงเทพฯ นครราชสีมา ชลบุรีและเรียงตามลำดับตามตารางที่ยกตัวอย่างมานั้นเองรายงสนนี้จัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอข้อมูลอัตราการเกิดของประชากรไทยในปัจจุบันตั้งแต่ 2550-2552 เป็นต้น         


ประชากรไทยในอนาคตเพิ่มช้าลงไปเรื่อยๆ อีกไม่เกิน 20 ปีข้างหน้า อัตราเพิ่มของประชากรไทยจะใกล้เคียงกับศูนย์และอาจเป็นไปได้ว่าอัตราเพิ่มประชากรลดลงไปจนต่ำกว่าศูนย์หรือติดลบ จำนวนประชากรไทยใกล้จะถึงจุดคงตัวแล้วเมื่ออัตราเพิ่มประชากรใกล้เคียงกับศูนย์ ประชากรก็จะมีจำนวนคงตัวที่ประมาณ 65ล้านคน ในแต่ละปี ประชากรไทยจะไม่เพิ่มหรือลดไปจากจำนวนนี้มากนัก ประชากรไทยมีจำนวนคงตัวในระยะเวลาอีกเพียงประมาณ15 ปีเท่านั้น
        ในขณะที่จำนวนประชากรไทยกำลังเพิ่มช้าลงนั้นได้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอายุของประชากรอย่างใหญ่หลวง เมื่ออัตราเกิดลดต่ำลงอย่างมากและผู้คนมีอายุยืนยาวนั้นสังคมไทยจึงกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว ในปี พ.ศ. 2548 ประเทศไทยมีผู้สูงอายุประมาณร้อยละ 10 ของประชากรทั้งหมดแต่ในอีก 30 ปีข้างหน้า ผู้สูงอายุจะเพิ่มเป็นร้อยละ 25ของประชากรทั้งหมด หรือมีจำนวนมากถึง 16 ล้านคนเมื่อถึงเวลานั้น ประชากรสูงอายุจะมีจำนวนมากกว่าประชากรวัยเด็กเสียอีก
        สัดส่วนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลให้ลักษณะการพึ่งพิงทางเศรษฐกิจระหว่างประชากรวัยต่าง
ๆ เปลี่ยนไป เดิมมีประชากรวัยเด็กที่ต้องพึ่งพิงประชากรวัยแรงงานมากกว่าผู้สูงอายุแต่ในอนาคตอันใกล้นี้ จะมีผู้สูงอายุที่ต้องพึ่งพิงประชากรวัยแรงงานมากกว่าเด็ก อัตราส่วนระหว่างประชากรวัยแรงงานต่อผู้สูงอายุจะลดลงจนเหลือเพียง
2 ต่อผู้สูงอายุ 1 คน ในอีก 30 ปีข้างหน้า
            
             การเปลี่ยนแปลงประชากรไทยในอนาคตได้ก่อให้เกิดนัยยะเชิงนโยบายหลายประการ
  (1) การที่เด็กเกิดใหม่แต่ละปีมีแนวโน้มลดน้อยลงในอนาคตจะทำให้รัฐไม่ต้องกังวลเรื่องปริมาณและสามารถมุ่งเน้นที่คุณภาพของเด็กเกิดใหม่โดยเฉพาะงานอนามัยแม่และเด็กได้มากยิ่งขึ้น
 (2) เช่นเดียวกับประชากรเด็กประชากรในวัยศึกษาเล่าเรียนมีแนวโน้มลดลง รัฐจะสามารถเน้นคุณภาพของการศึกษาได้ดีขึ้น
 (3) แม้จำนวนประชากรวัยแรงงานมีแนวโน้มที่จะไม่เปลี่ยนแปลงมากนักในอนาคตแต่ความต้องการแรงงานในระบบเศรษฐกิจของประเทศอาจมีเพิ่มขึ้นการนำเข้าแรงงานจากต่างประเทศอาจเป็นสิ่งจำเป็น ดังนั้นการจัดการแรงงานข้ามชาติให้เป็นระบบที่ดีจึงเป็นเรื่องที่ควรได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่ง
(4) ประชากรยิ่งมีอายุมากยิ่งเพิ่มเร็วสังคมไทยกำลังกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุ มาตรการและโครงการที่จะเป็นสวัสดิการให้ประชากรสูงอายุไม่ว่าจะเป็นเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ทั่วไป หรือเรื่องสุขภาพอนามัย ควรที่จะได้เริ่มกันตั้งแต่วนนี้และจะต้องพัฒนาไปให้ทันกับการเพิ่มอย่างรวดเร็วของประชากรสูงอายุในอนาคต


          สรุปได้ว่า อัตราการเกิดของประชากรในประเทศไทย พ..2551อัตราการเกิดของประชากรมากที่สุดคือกรุงเทพฯคิดเป็นร้อยละ65.03%ส่วนบุรีคิดเป็นร้อยละ17.70%และนครราชสีมาคิดเป็นร้อยละ17.27%จะเห็นได้ว่ากรุงเทพฯยังคงเป็นจังหวัดที่มีอัตราการเกิดของประชากรสูงสุดของประเทศรองลงมาคือชลบุรีและนครราชสีมาเรียงตามลำดับ

 
          สรุปได้ว่า อัตราการเกิดของประชากรในประเทศไทย พ..2552 จังหวัดที่มีการเกิดของประชากรมากที่สุดคือกรุงเทพฯคิดเป็นร้อยละ 65.12%ส่วนชลบุรีคิดเป็นร้อยละ17.62%และนครราชสีมาคิดเป็นร้อยละ17.20%และจะเห็นได้ว่ากรุงเทพฯยังคงเป็นจังหวัดที่มีอัตราการเกิดของประชากรสูงสุดของประเทศรองลงมาคือชลบุรีและนครราชสีมาเรียงตามลำดับ

          สรุปได้ว่า ข้อมูลอัตราการเกิดของประชากรไทยปี พ..2550-2552 จังหวัดที่มีอัตราการเกิดของประชากรมากที่สุดคือกรุงเทพฯคิดเป็นร้อยละ 65.45% ส่วนชลบุรีคิดเป็นร้อยละ17.49% และนครราชสีมาคิดเป็นร้อยละ17.06% จะเห็นได้ว่ากรุงเทพยังคงเป็นจังหวัดที่มีอัตราการเกิดของประชากรสูงที่สุดของประเทศรองลงมาคือชลบุรีและนครราชสีมาเรียงตามลำดับ

          สรุปได้ว่าจังหวัดที่มีอัตราการเกิดของประชากรมากที่สุดจะเห็นได้จากแผนภูมิคือกรุงเทพมหานครส่วนอัตราการเกิดของจังหวัดชลบุรีและจังหวัดนครราชสีมาจะมีอัตราการเกิดของประชากรที่ใกล้เคียงกัน


          สรุปได้ว่าจังหวัดที่มีการเกิดมากของประชากรมากที่สุดยังคงเป็นกรุงเทพมหานครส่วนจังหวัดชลบุรีและจังหวัดนครราชสีมามีการเกิดของประชากรอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน

บทสรุป
                จากการสำรวจอัตราการเกิดของประชากรในประเทศไทยในปี พ.. 2550-2552 พบว่าอัตราการเกิดของประชากรมากที่สุด3อันดับจะอยู่ที่กรุงเทพฯ, ชลบุรี, นครราชสีมาโดยในปี พ.. 2550 กรุงเทพมีอัตราการเกิดของประชากรมากถึง 110,534คน ส่วนชลบุรีมีอัตราการเกิดของประชากรมากถึง 29,069 คนในปี พ.2551 และนครราชสีมามีอัตราการเกิดมากที่สุดในปี พ..2551 มีจำนวนการเกิดของประชากรมากถึง 28,351คน และในแต่และปีจะเห็นได้ว่าอัตราการเกิดของจำนวนประชากรจะไม่เท่ากันบางปีจำนวนการเกิดของประชากรก็ลดลงบางปีก็เพิ่มขึ้นส่วนจังหวัดอื่นๆก็มีอัตราการเกิดของประชากรเรียงตามดำดับตามตารางที่กล่าวมาข้างต้น
ข้อเสนอแนะ
อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการจัดการรณรงค์เกี่ยวกับอัตราการเกิดของประชากรในประเทศว่าในแต่ละปีมีการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของจำนวนประชากรและในปัจจุบันมีจำนวนประชากรเท่าไรในประเทศ

เอกสารอ้างอิง
http://www.nso.go.th/ สำนักงานสถิติแห่งชาติ




นางสาวพัชรา    นนท์ขุนทด     ชื่อเล่น  โล           
รหัสนิสิต   52010119034   สาขาการพัฒนาชุมชน ปี2กลุ่มเรียนที่ 1   ระบบปกติ